ประสาท มีแต้ม - 15 เมษายน 255
เรื่องราคาน้ำมัน ทั้งๆ ที่รายได้ต่อหัวของคนไทยต่ำกว่าคนอเมริกันเยอะ แต่ทำไมราคาน้ำมันหน้าปั๊มของคนไทยจึงสูงกว่าในอเมริกา เรื่องนี้สะท้อนถึงคุณภาพชีวิตของคนไทยที่ต้องปากกัดตีนถีบ หาเช้ากินค่ำ ที่น่าแปลกคือ ในปี 2555 ประเทศไทยส่งออกน้ำมันดิบไปอเมริกาถึง 21,000 ล้านบาท คิดเป็น 43% ของน้ำมันดิบที่ส่งออก (ข้อมูลจาก http://www2.ops3.moc.go.th)
คนของบริษัทน้ำมันออกมาอธิบายว่า ราคาน้ำมันจะถูก หรือจะแพงขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลที่ออกมาในรูปของภาษี การจัดการกองทุน เป็นต้น ซึ่งก็เป็นความจริงส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ตอบคำถามในรายละเอียด
เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ในปี 2555 ประเทศไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปคิดเป็นเงินถึง 3.98 แสนล้านบาท (อันดับ 4 รองจากรถยนต์ คอมพิวเตอร์ และอัญมณี-ยางพาราอันดับ 5 ข้าวไม่อยู่ในตาราง แหล่งข้อมูลเดิม) คำถามก็คือว่า
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ขายให้คนไทยที่หน้าโรงกลั่น (ไม่รวมภาษี ไม่รวมค่าการตลาด และกองทุน) กับราคาส่งออกเป็นราคาเดียวกันไหม หรืออย่างไหนมากกว่ากัน
ผมใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ทั้งค้นหาข้อมูลของทางราชการ และนั่งคำนวณพบว่า ในเดือนมกราคม 2556 ประเทศไทยส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเฉลี่ยลิตรละ 21.70 บาท แต่ราคาหน้าโรงกลั่นเฉลี่ยทุกชนิดอยู่ที่ลิตรละ 22.67 บาท
สรุปราคาที่ขายหน้าโรงกลั่นในประเทศแพงกว่าราคาส่งออกลิตรละ 0.97 บาท ยังไม่รวมค่าการตลาดซึ่งกระทรวงพลังงานสรุปว่าประมาณ 1.28 บาทต่อลิตร (แต่เจ้าของปั๊มบอกว่าประมาณ 0.75 บาท) ยังไม่รวมค่ากองทุนน้ำมันที่กลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองเรียบร้อยไปแล้ว
คำถามคือ เป็นเพราะอะไร
คำตอบเบื้องต้นก็คือ การค้าน้ำมันภายในประเทศเป็นระบบผูกขาด ใครจะตั้งราคาเท่าใดก็ได้ ไม่มีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ผู้บริโภคเหมือนหมูในอวย แต่เมื่อนำน้ำมันไปขายในต่างประเทศจำเป็นต้องมีการแข่งขัน ดังนั้น ราคาจึงต้องลดลง ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งน้ำมันสำเร็จรูปไปสิงคโปร์ 32% มาเลเซีย 17% ลาว 9% กัมพูชา 7%
ถ้าใครคิดจะนำน้ำมันเข้ามาขายในประเทศก็อย่าได้คิด เพราะท่านจะถูกกีดกันด้วยคุณภาพน้ำมัน (ยูโร 4) ที่ประเทศเรามีมาตรฐานสูงเกินความจำเป็น ทุกเรื่องเขารวบหัวรวบหางไว้หมดแล้วครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น