คสช.ถกกระทรวงพลังงานไฟเขียวปล่อยขึ้นราคา LPG ครัวเรือน 1 มิ.ย.57 ตามกรอบเดิมอีก 50 สตางค์ต่อกก. ส่วนLPGขนส่ง NGV และนโยบายตรึงดีเซลรอตั้งกบง.และกพช.ก่อนคาดชัดเจนใน 2 สัปดาห์รวมถึงจะเสนอหัวหน้าคสช.ถึงแนวทางเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ให้พิจารณาเร็วๆนี้ “พล.อ.อ.ประจิน”แจงยังไม่ลาออกจากประธานบอร์ดบินไทยและกรรมการอิสระปตท.เพราะยังไม่อยากกดดันคนอื่นจะขอทำงานระยะหนึ่งก่อน http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000060661
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00น. ของวันนี้(30พ.ค.)พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศและรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจและทีมที่ปรึกษาศก.ได้เดินทางมายังกระทรวงพลังงานเพื่อหารือภาพรวมนโยบายด้านพลังงานร่วมกับข้าราชการระดับสูงและรัฐวิสาหกิจในสังกัดคือบมจ.ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) โดยใช้เวลาหารือกว่า 3ชั่วโมง
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวหลังการหารือว่า วันที่1มิ.ย.นี้ราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนจะปรับขึ้นอีก 50 สตางค์ต่อกิโลกรัมภายใต้กรอบนโยบายเดิมที่กำหนดไว้ ส่วนการปรับโครงสร้างราคาภาพใหญ่ จำเป็นจะต้องมีคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ซึ่งจะมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รวมถึงคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีรมว.เป็นประธานเสียก่อน ดังนั้นสัปดาห์หน้าจะได้มีการเสนอหัวหน้าคสช.ถึงแนวทางดังกล่าวก่อนและหลังจากนั้นจึงจะมีการพิจารณารายละเอียดต่อไปโดยจะพยายามสรุปให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์
“ อะไรที่ทำมาก่อนวันที่ 22 พ.ค.หรือก่อนที่คสช.จะเข้ามาก็ขอให้นโยบายนั้นเดินไปตามกรอบเดิมส่วนที่เหลือก็จะต้องให้มีกบง.และกพช.เข้ามาดูรายละเอียดก่อนทั้งแอลพีจีขนส่ง ก๊าซธรรมชาติหรือNGV รวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับราคาดีเซลที่ขณะนี้ตรึงราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรว่าจะเป็นอย่างไร โดยเราจะยึดหลักการสะท้อนกลไกตลาด ส่วนนโยบายการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 นั้นก็จะนำเสนอให้หัวหน้าคสช.ได้พิจารณาเรื่องนี้โดยเร็ว”พล.อ.อ.ประจินกล่าว
ทั้งนี้นโยบายพลังงานสำคัญเพราะเกี่ยวกับปัจจัย 4 ของประชาชนและยังสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดังนั้นนโยบายที่คสช.มอบหมายจะยึดหลัก 4 ข้อคือ 1. ทำอย่างไรให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด 2. ดูแลให้เกิดความเป็นธรรม 3. บริหารจัดการให้เป็นไปตามกลไกตลาด 4. เรื่องแก้ไขปัญหาหรืออุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับพลังงานโดยเร็ว ขณะเดียวกันยังให้กระทรวงพลังงานเร่งเดินหน้าแผนการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ส่งฝ่ายกม.ดูแลข้อมูลพลังงานในโซเชียลมีเดีย
ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับข้อมูลพลังงานซึ่งอาจจะมีการบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงนั้นได้มอบหมายให้ฝ่ายกฏหมายไปพิจารณาดูแลแล้ว โดยปัญหาข้อมูลด้านพลังงานที่เป็นข้อถกเถียงกันบางฝ่ายต้องการให้ราคาถูกบางฝ่ายก็ต้องการให้สะท้อนกลไกตลาดก็จะต้องมาทำอย่างไรให้ไปคนละครึ่งทางและทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
สำหรับกรณีคณะกรรมการบริหารปตท.และกฟผ.นั้น คสช.จะ เรียกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ (รสก.) เข้าหารือ เพื่อปรับประสิทธิภาพรัฐวิสาหกิจทั้งหมดในวันที่ 31 พ.ค.นี้ซึ่งรสก.ทั้งหมดมีถึง 56 แห่ง มีบอร์ดที่เกี่ยวข้อง 800 คนมีกฏหมายที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและอ้อม 26 ฉบับจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบซึ่งวันที่ 31 พ.ค.คงจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามในส่วนที่ตนเป็นประธานบอร์ดการบินไทยและกรรมการอิสระในบมจ.ปตท.นั้นยังคงไม่ลาออกเพราะหากลาออกจะเป็นการไปกดดันคนอื่นๆ จึงขอทำงานสักระยะหนึ่งก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนที่จะต้องปรับขึ้นตามกรอบเดิมอีก 50 สตางค์ต่อกก.มีผลวันที่ 1 มิ.ย.นี้ส่งผลให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนจะขยับราคาไปอยู่ที่ 23.13 บาทต่อกก. ทันทีขณะที่แอลพีจีภาคขนส่งอยู่ที่ 21.38 บาทต่อกก.ส่งผลให้ราคาแอลพีจีครัวเรือนมีราคาที่สูงกว่า 1.75 บาทต่อกก.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น