ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยงบการเงินบริษัทจดทะเบียนงวด 9 เดือน 442 แห่ง ทำกำไรสุทธิสูงถึง 518,282 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 21.30% และมียอดขายรวมถึง 6,428,534 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24.89% โดยมีบริษัทจดทะเบียนทั้งใน SET และ
mai รวม 41 บริษัท มียอดขายและกำไรงวด 9 เดือนมากกว่าปีที่แล้วทั้งปี
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์ (SET) มีกำไรสุทธิ 386 บริษัท คิดเป็น 87.33% ของบริษัทจดทะเบียนที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด
ในจำนวนนี้มีบริษัทจดทะเบียน 33 แห่ง สามารถทำกำไร สุทธิสะสมงวด 9 เดือนมากกว่าปีที่ 2553 ทั้งปี
ขณะที่ไตรมาส 3 ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนใน SET มียอดขายเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2,240,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.50%
จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิรวม 154,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.42%
“ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในงวด 9 เดือนยังมีตัวเลขอัตราการเติบโตของยอดขายและกำไรสุทธิรวมที่ปรับ
ตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและมีกำไรรวมสูงสุดต่อเนื่อง จากงวดปี 2553 ถึงงวดครึ่งปีแรกของปี 2554 ที่ผ่านมา
ซึ่งบ่งชี้ถึงพื้นฐานอันแข็งแกร่งของภาคธุรกิจและการเติบโตของยอดขายในแทบทุกหมวดธุรกิจ อย่างไรก็ตามผล
ประกอบการ งวด 9 เดือนนี้ ยังไม่ได้สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบจ.ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยที่
เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่าน มา “นายจรัมพรกล่าว”
ทั้งนี้ บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานงวด 9 เดือนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.ปตท
.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย
(SCC) และ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
จากผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน กลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่ม
ธุรกิจการเงิน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขณะที่หมวดธุรกิจ ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับ จาก 27 หมวด
ธุรกิจ ได้แก่ หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร และ หมวดวัสดุก่อสร้าง
ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนใน mai งวด 9 เดือนแรก ปี 2554 บริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินรวม
68 บริษัท จากทั้งหมด 70 บริษัท มียอดขายรวม 52,948 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 34.94 และมีกำไร
สุทธิรวม 2,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 37.85% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 20.65% ลดลง
จาก 22.46%
ทั้งนี้บริษัทจดทะเบียนใน mai ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด 3 อันดับแรกคือ บมจ. เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ (EARTH) บมจ. เอเชีย
กรีน เอนเนอจี (AGE) และ บมจ. โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ (GFM) ขณะที่ในไตรมาส 3 ปี 2554 มีกำไรสุทธิ
รวม 987 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 17.78% โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสาเหตุหลักมาจาก
ยอดขายรวมเพิ่มขึ้นถึง 36.75% และมีบริษัทจดทะเบียนใน mai ที่สามารถทำกำไรสุทธิสะสมงวด 9 เดือนแรกของปี
ได้สูงกว่ายอดรวมตลอด ทั้งปีในปีก่อนหน้าถึง 8 บริษัท
สาเหตุ ของความเหลื่อมล้ำ
(คลิ๊กขวาที่รูป เปิดในหน้าต่างใหม่ แล้วกดขยายภาพ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น