ทวงคืน ปตท.

ทรัพย์สินของแผ่นดิน พลังงานของชาติ ...จะปล่อยให้คนไม่กี่ตระกูล ครอบครองและกอบโกยผลประโยขน์ - ทวงคืน ปตท.. เพื่อให้เป็นสมบัติของลูกหลานคนไทยทุกคน...◕‿◕..

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จับตาความไม่โปร่งใสใน ปตท.




ไม่มีคนไทยคนใดไม่รู้จักบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เพราะเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นตัวแทนและเป็นหน้าเป็นตาของรัฐบาล ที่สำคัญเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดราคาพลังงานของประเทศ คนไทยจะใช้น้ำมันถูกหรือแพง ส่วนหนึ่งก็มาจากการตัดสินใจของปตท.

แต่วันนี้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับ ปตท.และบริษัทในเครือ ที่คนไทยไม่มีโอกาสได้รู้ได้เห็น นั่นคือเรื่องที่การเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหารจัดการ เข้ามาทำตัวเป็นเหลือบในองค์กร ไม่ต่างอะไรกับสนิมร้ายที่กัดกินเนื้อเหล็กให้รอวันผุพัง

ที่ผ่านมาพนักงานของ ปตท.และในเครือกว่า 10,000 คน ไม่เคยตื่นตัว ไม่เคยสนใจ เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน

แต่วันนี้พวกเขาเหล่านั้นเริ่มตื่นตัว ลุกขึ้นมาก่อตั้งชมรมต่อต้านการทุจริตคอรัปชันในองค์กรของตัวเอง เนื่องจากเห็นว่าถ้ายังปล่อยให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง เข้ามาทำทุจริตโกงกินกันอีกต่อไปสักวัน ปตท.คงหนีไม่พ้นต้องล้มละลายเหมือนกับ “เอนรอน” บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่เคยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มูลค่าทรัพย์สินเกือบ 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ต้องมาล้มละลายเพราะผู้บริหารองค์กรทุจริตขาดบรรษัทภิบาล

เป็นที่รู้กันใน ปตท.และบริษัทในเครือว่า หลายปีที่ผ่านมา กระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างอ่อนแอมาก เป็นผลพวงมาจากคนในองค์กรที่ยอมอ่อนข้อให้กับการเมือง และยอมทำตามคำบัญชาของนักการเมืองโดยไม่กล้าทักท้วง จนในที่สุดพนักงาน ปตท.และในเครือทนเห็นความไม่ชอบมา พากลไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาปกป้องสมบัติของชาติ

ไม่น่าเชื่อว่าพลังเงียบใน ปตท.และเครือข่าย จะสามารถแสดงพลังต่อต้านคอรัปชันได้ไม่น้อย จนทำให้ผู้บริหารองค์กรบางคนที่คิดทุจริตต้องหยุดพฤติกรรมเลวๆ

ดูได้จากโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ควบคุมและป้องกันการกลั่น ของไทยออยล์มูลค่า 1,600 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแรกๆที่พนักงาน ปตท.และบริษัทในเครือออกมาปลุกกระแสการต่อต้านการทุจริต จนทำให้หลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโครงการอย่างละเอียด ซึ่งล่าสุดประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจไทยออยล์ได้ยื่นหนังสือขอให้บอร์ดไทยออยล์ทบทวนการประมูลงานโครงการนี้อีกครั้ง

แต่การตื่นตัวของพนักงาน ปตท.และบริษัทในเครือ นอกจากจะทำให้สังคมเริ่มจับตาความโปร่งใสในองค์กรพลังงานของประเทศแล้ว ยังทำให้ผู้บริหารองค์กรบางคนมองว่า หากปล่อยให้พลังเงียบใน ปตท.และเครือข่ายเข้มแข็งมากขึ้นกว่านี้ ก็จะกลายเป็นหอกข้างแคร่เป็นอุปสรรคในการทำทุจริต

ทำให้เมื่อเร็วๆนี้มีการโยกย้ายฟ้าผ่าใน ปตท.และบริษัทในเครือ โดยเริ่มจาก นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ถูกย้ายไปเป็นประธาน เจ้าหน้าที่บริหารไทยออยล์ แทน นายสุรงค์ บูลกุล ที่ถูกย้ายไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือซีเอฟโอ ปตท. และย้าย นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือซีอีโอ ปตท.สผ. เข้าไปนั่งแทน นายวีรศักดิ์ พร้อมโยกนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ซีเอฟโอ ปตท. มาเป็นซีอีโอ ปตท.สผ.

ไม่มีใครบอกได้ว่าเบื้องหลังลึกๆในการโยกย้ายครั้งนี้ จะมีเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบ ขจัดอุปสรรคและปัญหาขัดแย้งภายในองค์กร หรือมีเป้าหมายอื่นที่แอบแฝง

แต่สำหรับพนักงาน ปตท.และเครือข่ายต่อต้านการทุจริต รู้ดีว่านี่เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพื่อหยุดพลังเงียบใน ปตท. และเครือข่ายไม่ให้เข้มแข็งมากไปกว่านี้.


“ลมสลาตัน”

ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ลมสลาตัน
    3 เมษายน 2555, 05:00 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น