ทวงคืน ปตท.

ทรัพย์สินของแผ่นดิน พลังงานของชาติ ...จะปล่อยให้คนไม่กี่ตระกูล ครอบครองและกอบโกยผลประโยขน์ - ทวงคืน ปตท.. เพื่อให้เป็นสมบัติของลูกหลานคนไทยทุกคน...◕‿◕..

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แกนนำ “บ้านศิลปิน” แห่งคลองบางหลวง ร่วมทวงคืน “พลังงานไทย”


       ART EYE VIEW---เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินผู้ก่อตั้ง “บ้านศิลปิน” แห่งคลองบางหลวง ล่าสุด ชุมพล อักพันธานนท์ ได้ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหว เพื่อร่วมทวงคืน “พลังงานไทย”
     
       ที่ยามนี้เขาเห็นว่า ยังถูกให้ข้อมูลจาก “ผู้จัดการมรดกของประเทศ” ในนาม “กระทรวงพลังงาน” ว่า 
     
       พลังงานไทยใกล้หมดในอีกไม่กี่ปี สวนทางกับความจริงที่ปล่อยให้บริษัทต่างชาติสัมปทานขุดเจาะน้ำมันยาวนาน 30 ปี 
     
       “เราเป็นคนซ่อมบ้านเก่า จนเราไปอยู่ที่คลองบางหลวง เห็นว่าเป็นมรดกมีค่า รู้สึกว่าทุกคนมีแต่รื้อบ้านเก่าทิ้ง แล้วนึกถึงแต่กำไร เพราะว่าการดูแลมันหนัก แต่เราไปซ่อม ส่วนใครรื้อก็รื้อไป 
     
       และที่บ้านศิลปิน เราทำงานรณรงค์เรื่องน้ำ เรื่องเราทำเรื่องน้ำ เรื่องเสียงเรือด้วย สุดท้ายกฎหมายมีบังคับใช้ แต่หน่วยงานไม่ได้บังคับใช้ มันเหมือนเราทำแล้วเราเหนื่อยมากเลย เราอยู่ปลายน้ำ คนทิ้งขยะอยู่ต้นน้ำ เสียงตะโกนเราไม่ถึงคนกำลังทิ้งขยะ และสิ่งที่เราสนใจมันเกี่ยวไปถึงเรื่องการดูแลสาธารณูปโภค 
     
       ทุกคนเดือดร้อนเรื่องการใช้ชีวิตอยู่ มันจะแย่อยู่แล้ว ใครจะมาสนใจเรื่องขยะ มองเป็นเรื่องเล็กน้อย เรื่องไม่มีจะกินเรื่องใหญ่กว่าใช่ไหม
     
       สุดท้ายเรามารับรู้เเรื่องพลังงาน กระทรวงพลังงานบอกว่า อีกไม่กี่ปี พลังงานจะหมดแล้วประเทศไทย เรา แต่ปล่อยให้สัมปทาน30 ปี ซึ่ง มันขัดแย้งกันมาก นอกจากนี้เรากถูกผลักดันให้ทำถ่านหิน ทั้งที่พลังงานหมุนเวียนเราเยอะมาก แต่พลังงานแสงอาทิตย์ไม่ได้มีค่าคอมมิชชั่น 
       จะให้ใคร เราไม่ได้ลงทุนในสิ่งที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงไง ถ้าเกิดเราทำ ประเทศชาติเจริญมากเลย ไม่ตอนพึ่งถ่านหิน 
     
       เราจึงรู้สึกว่า โอ้ยตายแล้ว ถ้าเรา ร่วมกันผลักดันให้เกิดสัมปทานใหม่ ให้มันเกิดการเปลี่ยนแปลง ประชาชนทุกคนจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะได้เลิกเป็นหนี้ เวลาป่วย 30 บาทรักษาทุกโรค จะได้รักษาได้จริง”
      
แม้แต่หมายังรู้

       >>>หยุดขุดเจาะวิถีชีวิต
     
       หลังจากที่ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องพลังงานมานาน 8 เดือน รวมทั้งลงพื้นที่ อ.เกาะสมุย (จากที่รัฐบาลได้อนุญาตให้บริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานเข้าขุดเจาะเพื่อสำรวจแหล่งน้ำมันดิบกลางทะเลอ่าวไทยหลายจุดของพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งพื้นที่ อ.เกาะสมุย และเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี) 
     
       ในฐานะคนทำงานศิลปะ ชุมพลและเพื่อนศิลปินอีก 2 ท่าน ได้แก่ ศุภสิทธิ์ วงศ์ร่มเงิน และ ณัฎฐ บุตตวัตรวัลลภ ได้สร้างงานศิลปะมาจัดแสดงในนิทรรศการ หยุดขุดเจาะวิถีชีวิต(วันนี้ - 30 มิถุนายนพ.ศ. 2556 ณ ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร) เพื่อร่วมรณรงค์และผลักดันให้เกิดสัมปทานใหม่ และในวันที่ 22 มิถุนายน2556 เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ได้เชิญ สว.รสนา โตสิตระกูล แกนนำเคลื่อนไหวเรื่องพลังงานมานาน มาให้ข้อมูลกับผู้สนใจด้วย
     
       “เราต้องการบอกว่า สัมปทานเรื่องพลังงานมันไม่เป็นธรรมไง ถ้าเราอิงจากต่างประเทศดู จะรู้ว่าเราต่ำกว่ามาก เราได้ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ข้อแม้ต่างๆสนธิสัญญาต่างๆที่มันเกิดขึ้น เราเสียเปรียบตลอด คือเราไม่ได้ดูแลคนในประเทศ อันนี้คือสมบัติของไทยทุกอย่างแท้ๆ แต่กลับถูกต่างชาติเจาะหมดเลย นี่มันคือสิ่งต่างๆที่มันเกิดขึ้น
     
       แล้วแถมยังมีข้อแม้อีกอย่างเยอะ เมื่อถูกถามว่า ทำไมไม่ให้คนไทยเป็นคนขุดน้ำมันด้วย ยิ่งไปฟังที่โรงแรมเมื่อไม่กี่วัน คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ บอกว่า ถ้าคนไทยจะสัมปทานต้องเอาเงิน 2 พันล้านมาวาง ต่างชาติไม่ต้องเลย โอ้โห นี่คือสิ่งที่เกิดกับทรัพย์สมบัติของไทย ที่ผลกำไรที่ได้น่าขะมาช่วยเศรษฐกิจให้มันดีขึ้น 
     
       ผมคิดว่ามันควรจะเกิดกฎหมายแล้วเปลี่ยนแปลงสัมปทานใหม่ เปลี่ยนค่าสัมปทาน จากที่เราเคยได้ 30 % ควรจะได้ 70-80 % เพราะคนอื่นเขาได้มาเพียงพอมากๆแล้ว ขุดมานานัปการ อย่าง ลานกระบือ บ่อนึงกี่จังหวัด ทุกวันนี้น้ำมันส่งออกเยอะมาก แล้วที่ตรวจสอบไม่เจออีกเท่าไหร่ นี่แค่ที่เราเรียบเรียงจากที่แจ้งกับตลาดหลักทรัพย์ แต่ที่เราไม่เห็นอีกล่ะ
     
       แล้วผมยังมาเจอข้อมูลอีกอันที่เพิ่งรู้ คือ NGV ต่างประเทศห้ามอัดอากาศเกิน 3% ห้ามอัดคาร์บอนเกิน 3 % เพราะว่าจะทำให้เกิดภาวะโลกร้อน เวลาที่ คาร์บอนถูกเผาไหม้ แต่ ปตท.อัด 18% เกินตั้ง 15% เพราะอะไรล่ะ เพราะกฎหมายเราเอื้อ กระทรวงพลังงานไปเอื้อว่าเอาละทำได้ เพราะว่าคนของกระทรวงพลังงานก็ไปนั่งเป็นบอร์ด ปตท.
     
       ถามว่าทุกวันนี้ใครทำเพื่อประชาชนจริงๆ กระทรวงพลังงาน อัยการสูงสุด ก็เป็นบอร์ด ปตท. เขาไม่ได้ผิด แต่กฎหมายไปเอื้อไง กฎหมาย คมช.เข้ามาตั้งตอน ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เข้ามาเนี่ย ไปเปลี่ยนแปลงจากคำว่า ห้ามรัฐวิสาหกิจหรือข้าราชการเข้าไปรับตำแหน่ง หรือได้ผลประโยชน์จากรัฐวิสาหกิจต่างๆ แล้วไปเพิ่มคำว่า เว้นแต่ได้รับการแต่งตั้งจากหน่วยงานนั้น 
     
       ถามว่า เนี่ยเป็นการปล้นประเทศไทย หรือเปล่า ปล้นคนไทยทั้งประเทศ ผมอยากบอกว่า เฮ้ย ...นี่มันเรื่องมวลรวมททั้งประเทศ ในระหว่างที่ประเทศเรากำลังมีปัญหาเรื่องโน้นเรื่องนี้ แต่น้ำมันลอยตัวตลอด และไม่มีใครมาจุดประกายเรื่องนี้
     
       ได้เห็นแต่โฆษณาที่ใช้เงินมหาศาล ที่ปิดบังไม่ให้คนเข้าใจในความเป็นจริงไง ดังนั้น เราซึ่งเป็นคนหนึ่งที่รู้ข้อมูลต้องกล้าออกมาพูด ถามว่าเราพร้อมเหรอ บ้านศิลปิน แต่ถ้าเรารอให้พร้อม ประเทศจะไม่เหลืออะไร
     
       ล่าสุด ปตท.จ่ายค่าโฆษณา 200 ล้านบาท เพื่อมาสยบข่าวลือเกี่ยวกับข้อมูลที่เราให้ บอกว่าจะช่วยสร้างสถานศึกษา ซึ่งเราไม่นึกเลยว่าแต่ก่อนกินกันมานิรันดร์กาลขนาดไหน เพิ่งจะมาคิดได้ แถมยัง เปิดบริษัทลูกเพื่อหักภาษีได้อีก ใครจะมาปรับได้ เพราะว่าทุกอย่างมันอยู่ในองค์กรเดียวกันหมด”
       ประเทศไทยพรุนทั้งประเทศ
     
       - ส่วนแบ่งเข้ารัฐได้ไม่ถึง 30 %
       - พม่า เขมร ลาว ล้วนได้ถึง 80 %
       - อัยการสูงสุด ปลัดกระทรวงพลังงาน นั่งเป็นบอร์ด ปตท. แล้วใครจะดูแลประชาชน เพราะรายรับได้ต่อปี นับ 10 ล้าน มากกว่าเงินเดือนราชการอีก
       >>>ย้ำ.. เคลื่อนไหวในฐานะประชาชนและศิลปินคนหนึ่งที่สะเทือนใจ
     
       การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ชุมพลกล่าวว่า ไม่ใช่ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชน แต่ในฐานะประชาชนที่รับรู้ข้อมูล และในฐานะคนทำงานศิลปะที่สะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงลงทุนควักเนื้อตัวเองทั้งหมดเพื่อการนี้
     
       “เวลาที่เรามีความคิดที่ค้านไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ก็มักจะถูกเหมารวมว่าเป็น NGOรัฐบาลมองว่าเรา NGO นะ แต่ผมเป็นคนทำงานศิลปะที่รับรู้ข้อมูล สะเทือนใจเหมือนกับหลายคน พอศิลปินสะเทือนใจเราก็จะไปบ่นกับคนในวงกาแฟอย่างเดียวมันก็เท่านั้น เราก็ควรจะเอาแรงบันดาลใจที่มันหมกอยู่ในใจสร้างเป็นงาน
     
       เราไปสมุยมาครั้งหลังสุดเนี่ย ประชาชนแทบทั้งเกาะเลย ลุกขึ้นมาต่อต้าน มาขุดได้ไง จำได้ว่าเมื่อ 20-30 ก่อน เรายังเคยมาดำน้ำที่สมุย นอกจากนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้ว กรมทรัพยากรธรณีทางธรรมชาติ ให้ พี่จุ้ย- ศุ บุญเลี้ยง แต่งเพลง เพื่อบอกว่า เกาะต่างๆสวยงามมาก แต่มาปัจจุบันนี้ กรมพลังงานสั่งขุด มันขัดแย้งกัน ไม่ได้เป็นไปด้วยกัน”
     
       นิทรรศการศิลปะครั้งนี้ เราได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องพลังที่เรารับรู้มาตลอด รวมถึงสมุยที่เราไปสัมผัส มาครั้งล่าสุด
     
       ทำไมปล่อยให้สัมปทานกันได้ โดยไม่นึกถึงสิ่งแวดล้อมที่มันเกิด และทั้งที่บนบก 2800 หลุม ที่ขุดกันอยู่ ยังไม่เคลียร์กันเลย แถมยังอนุมัติใหม่อีก มันกี่หลุมล่ะ และเรื่องนี้ควรจะเป็นเรื่องที่ควรจะผ่านสภา เพราะเป็นทรัพย์สมบัติของชาติ ที่ควรจะมีการพูดคุยกันในสภา ไม่ใช่รู้เห็นกันแค่ในกระทรวงพลังงาน คนไม่กี่คน ถามหน่อย แล้วคนไม่กี่คนเนี่ย มาเปลี่ยนแปลงคนทั้งประเทศ ถามหน่อยเป็นคนไทยกันหรือเปล่า กำลังเล่นสนุกอะไรกันอยู่ 
     
       หลายอย่างที่เราเรียกร้องมาก่อนหน้านี้ เรื่องน้ำเสีย เรื่องเสียง เรื่องควัน เราเรียกร้องกันมาโดยตลอด แต่ทุกอย่างเมื่อสาวถึงกระบวนการแล้วมันโยงใยมาจากเรื่องเดียวกันหมด คือเรื่องนักการเมืองที่ไม่ได้ทำเพื่อประเทศ ไม่ได้เห็นประชาชนอยู่ในจิตใจจริงๆ”
     
       การแสดงงานครั้งนี้ เราไม่กล้าหวังอะไร เราแค่บรรยายบางอย่างที่อยู่ในใจออกมา แทบไม่ได้หลับได้นอน เพราะเราเขียนรูปทุกคืน จากแรงบันดาลใจที่ได้ไปเห็นสมุยมาด้วย เหมือนเรื่องในใจมันเยอะ การได้ไปเห็นอะไรจากชาวบ้าน แบบที่ NGO เขาเคยไปเห็น มันสะเทือนใจอย่างนี้นี่เอง 
     
       แม้แต่ตอน ภาคใต้ไฟฟ้าดับล่าสุด เราก็ไปค้นเลย เราไม่โทษว่าใครเป็นคนกระทำ แต่ว่าเราอยากรู้ไง อยากรู้ว่าโลกของเราถูกจัดสรรโดยอะไร มันเป็นระบบทุนหมดเลย เราต้องซื้อมาขายไปหมด เราทำไมไม่กล้าทำเรื่องพลังงาน เหมือนกับเรื่องน้ำที่กำลังทำอยู่นี่ล่ะ ถ้ากล้าเอาเงิน 3.5 แสนล้านเท่ากัน มาทำเรื่องพลังงาน โอ้โห ประเทศเราจะเกิดพลังงานหมุนเวียน ใช้นิรันดร์กาล แค่ไฟของการไฟฟ้าทั่วประเทศเปลี่ยนเป็นแอลอีดีทั้งหมด ประหยัดไฟฟ้าด้วยกันทั้งหมด แล้วทำไมไม่เปลี่ยนล่ะการไฟฟ้า แล้วนโยบาลนี้เพื่อใคร เราต้องดูให้ดีๆไง เฮ้ยตรงนี้ มันขัดแย้งกันเองหมดเลย มีใครทำเพื่อประเทศอย่างแท้จริง 
     
       ผมไม่กล้าที่จะบอกว่างานศิลปะของผมทำแล้วเพื่อที่จะส่งผลอะไร เพราะไม่กล้าที่จะคาดหวัง เพราะเราต้องการเผยแพร่ในสิ่งที่เราคิดอยู่ในใจ เราคือคนเล็กๆเท่านั้นเอง อยากให้คนช่วยเผยแพร่ ช่วยถ่ายรูป ไม่มีลิขสิทธิ์ เอาไปเผยแพร่ได้หมด 
     
       NGO ส่วนหนึ่งเขาก็ผลักดันกันไป แต่เราเป็นคนทำงานศิลปะ เราก็พยายามผลักดันในเรื่องของสิ่งที่อยู่ในใจ สิ่งที่เราเห็น แล้วเราก็ทำเรื่องบ้านศิลปิน เราใช้เวลา 4-5 ปีเพื่อที่จะอยู่ตรงนั้น เพื่อจะได้สร้างสิ่งที่เล็กนิดเดียว คือการอนุรักษ์ แต่การทำลายของคน เขาเขยิบนิดเดียวมันทำลายทั้งหมด 
     
       เรา อยากให้มีการเปลี่ยนสัมปทาน เพื่อให้มีการสัมปทานรูปแบบใหม่ ที่ผ่านมาที่ไม่เป็นธรรม อยากให้รื้อทำใหม่ให้มันเป็นธรรมเคียงกับต่างชาติมันมีกฎบัตรอยู่นะ เรื่องสิทธิของการสัมปทานแหล่งน้ำมันทั่วโลกที่ว่า ไม่ควรเอาเปรียบประเทศเกินไป 
     
       ต้นขั้วคือ กระทรวงพลังงาน และหลักฐานการสัมปทาน ประชาชนต้องลุกขึ้นมา เพื่อทวงคืนสิ่งที่ตัวเองควรจะได้และคุ้มค่ากว่า ทุกคนไม่ควรจะเสียไปมากกว่านี้”
     
       Photo by วารี น้อยใหญ่
      
      
ขณะนี้ 
       - แหล่งน้ำมัน 2,800 หลุม
       - ขุดเจาะทุกวัน
       - ส่งออกทุกวัน
       - อ้างส่งออกเพราะกลั่นไม่ได้
       - คนไทยทำไมจน
       - เพราะจ่ายค่าน้ำมันแพง
       - อ้างจากราคาสิงคโปร์ + ได้เพิ่มค่าขนส่ง(ที่ไม่เกิดขึ้นจริง) แต่กลั่นจากระยอง

      
      
       ส่งข่าวสารงานศิลปะร่วมสมัย มาได้ที่ ข่าว ART EYE VIEW เซกชัน Celeb Online www.astvmanager.com และ M-Art eye view เซกชัน Lite ในหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ Email: thinksea@hotmail.com
     
       และคลิกเป็น แฟนเพจ ได้ที่ http://www.facebook.com/arteyeviewnews
รูปสำรอง -










วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แฉ! พลังงานไทย เพื่อใครกันแน่!


แฉ! พลังงานไทย เพื่อใครกันแน่!



นักวิชาการระดมกึ๋นเปิดเวที ถก "พลังงานไทย...เพื่อคนไทย...หรือเพื่อใคร?" ชี้ชาติถูกผูกขาดด้านพลังงานจากยักษ์ใหญ่ในขณะที่ประชาชนคือเจ้าของที่แท้จริงกลับได้คืนเพียงความยากจน

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี อนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลด้านพลังงาน วุฒิสภา กล่าวในวงเสวนาประจำปีของเศรษฐศาสตร์การเมือง จุฬาฯ หัวข้อ "พลังงานไทย...เพื่อคนไทย...หรือเพื่อใคร?" (เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.) ว่า เมืองไทยต้องขอรัฐสัมปทานน้ำมันไม่ใช่การประมูล แล้วแผนที่การให้สัมปทานน้ำมันถ้าได้เห็นจะมีกระจายทั่วไป ทั้งกำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ฯลฯ ขณะที่คนในพื้นที่ไม่เคยรู้ว่าที่นั่นมีการให้สัมปทาน และที่สำคัญภาครัฐมักจะบอกว่าที่นั่นไม่มีแหล่งน้ำมันแต่ขอขุด จึงเกิดคำถามว่าหากไม่มีน้ำมันทำไมจึงเดินหน้าขุดเจาะกัน

ทั้งนี้ ปริมาณผลิตปิโตรเลียมปี 55 ของประเทศไทย จากข้อมูลของกระทรวงพลังงานระบุว่า เดือน ม.ค. มีปริมาณ 846,425 บาร์เรล/วัน ขณะที่แหล่งเจดีเอ ไทย-มาเลเซีย มีประมาณ 140,000 บาร์เรล/วัน  และคอนเดนเสต หรือจำนวนที่่กลั่นเป็นน้ำมันได้ มีทั้งเบนซินและดีเซล ทว่าทางกระทรวงเอาตัวนี้ออกจากสมการทุกสมการ แล้วบอกว่าใช้แล้ว ท้งนี้ ที่อยากรู้คือ มีหรือไม่มี ไม่ใช่นำไปใช้ก่อนแล้วบอกว่าไม่มี


"วันนี้ไทยผลิตก๊าซแซงโอเปก 8 ประเทศ และอยู่ในอันดับที่ 24 ของโลกจริง ขณะที่ส่วนแบ่งจากสัมปทานกลับได้น้อยมากเพียงครึ่งเดียว ของประเทศอื่น เทียบจากพม่าได้ 80-90% โบลิเวีย ได้ส่วนแบ่ง 82% คาซัคสถาน ได้ส่วนแบ่ง 80% ถามว่าทำไมเมืองไทยจึงได้ส่วนแบ่งน้อย คำตอบไม่ใช่เพราะค่าใช้จ่ายจากการขุดเจาะแพง แต่เป็นเพราะประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ไม่เอาส่วนแบ่งกำไร หรือส่วนแบ่งผลผลิตเลย และปัญหาอีกอย่างคือ พ.ร.บ. ปี 2532 ที่ทำขึ้นสมัยน้ำมันดิบ 18 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ปัจจุบันน้ำมันดิบปรับขึ้นกว่า 100 เหรียญ/บาร์เรล ราคาแตกต่างกัน ทว่าเรายังใช้ พ.ร.บ.ฉบับเดิมไม่มีการแก้ไข พ.ร.บ.ให้สอดคล้องกัน ส่งผลให้ บ.น้ำมันได้ Windfall Profit ทั้งที่เงินเหล่านี้ควรจะกลับมาเป็นการศึกษา, รักษาพยาบาลที่ดีให้กับประชาชนที่เป็นเจ้าของทรัพยากรอย่างแท้จริง"

"ภาครัฐต้องระบุให้ชัดเจนว่าปริมาณพลังงานที่คนไทยใช้นั้นเท่าไหร่ ไม่ใช่เหมารวมเพื่อที่จะนำเข้ามาแล้วส่งออกแล้วนับเป็นว่าคนไทยใช้ไม่ได้ ซึ่งการให้ข้อมูลแบบนี้ถืเป็นการเบี่ยงเบนความจริง ซึ่งสิ่งที่ภาครัฐไม่ได้บอกว่าทำไมต้องนำเข้าน้ำมันดิบ 8 แสนบาร์เรล/วัน เพราะ 1.ทดแทนการส่งออกน้ำมันดิบ 41,000 บาร์เรล/วัน 2.กลั่นแล้วส่งออกต่างประเทศ 259,000 บาร์เรล/วัน และ 3. ทดแทนที่ปิโตรเคมี นำคอนเดนเสท ก๊าซโซลีนธรรมชาติ (กลั่นเป็นเบนซิน+ดีเซลได้) และแอลพีจี นำไปเป็นวัตถุดิบทำพลาสติก+เคมีภัณฑ์ 185,000 บาร์เรล/วัน สรุป ว่าการนำเข้าส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อกลุ่มพลังงานนั่นเอง"

"วันนี้ถึงเวลาต้องมีการเปลี่ยนแปลงคนไทยคือเจ้าของบ่อน้ำมันกันทุกคนผมไม่ต่อต้านบริษัทพลังงานไม่ให้มีกำไร  แต่อยากให้บริษัทพลังงานมีกำไรตามสมควร และประชาชนได้ส่วนแบ่งที่เป็นธรรมมากกว่านี้ไม่ใช่บริษัทพลังงานได้กำไรเป็นแสนๆ ล้าน ขณะที่คนไทยยังมีความเป็นอยู่ยากจนอยู่เหมือนเดิม" ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว

ขณะที่ นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า เหตุที่ราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นที่ไทยต้องอิงราคาสิงคโปร์เพราะตลาดซื้อขายที่สิงคโปร์เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และอยู่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุด สำหรับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องก๊าซธรรมชาติในประเทศไทยนั้นไทยผลิตก๊าซธรรมชาติได้เป็นอันดับที่ 24 ของโลก คิดเป็นปริมาณเท่ากับ 1.1% ของการผลิตก๊าซทั้งโลก ในขณะที่ที่สหรัฐฯ ผลิตได้ 19.3% และรัสเซียผลิตได้ 18.4% แต่เราใช้ก๊าซธรรมชาติมากเป็นอันดับที่ 20 ของโลก และเป็นผู้นำเข้าก๊าซฯเป็นอันดับที่ 21 ของโลก ส่วนโครงสร้างราคาน้ำมันจะเห็นว่าภาษีที่จัดเก็บมีซ้ำซ้อนทั้งภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล ภาษีมูลค่าเพิ่ม กองทุนน้ำมัน กองทุนอนุรักษ์พลังงาน สิ่งเหล่านี้คือต้นทุนราคาน้ำมันบ้านเรา  แต่สาเหตุที่ราคาน้ำมันแพง มาจากคุณภาพของน้ำมันที่ใช้ในไทยเป็นน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 คือมี คุณภาพดี

"ส่วนการผูกขาดของบริษัทพลังงาน โดยเแพาะการผูกขาดเรื่องท่อส่งก๊าซธรรมชาติ แต่การผูกขาดนี้มีมาตั้งแต่สมัยที่บริษัทยังเป็นรัฐวิสาหกิิจ แต่หลังจากแปรรูปเป็นบริษัทเอกชนแล้ว ก็มีความพยายามที่จะผูกขาดโดยเแพาะเรื่องการนำเข้า แต่ในเรื่องของธุรกิจดรงกลั่นน้ำมัน ยังมีความเข้าใจว่าบริษัทพลังงานไปผูกขาดไว้เองถึง 5-6 แห่ง ทั้งนี้อาจเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยดูได้ว่าบริษัทพลังงานมีอำนาจในการบริหารอยู่กี่แห่ง ก็จะพบว่าบริษัทพลังงานมีอำนาจในการบริหารเพียง 3 แห่งเท่านั้น"

ด้าน ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผอ.การวิจัย ด้านการบริหารจัดการระบบเศรษฐกิจ ฝ่ายการวิจัยแผนงานเศรษฐกิจรายสาขา มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) กล่าวว่า นโยบายพลังงานของประเทศไทยมุ่งรักษาผลประโยชน์ของบริษัทพลังงานมากกว่าของประชาชน และของประเทศ ทำให้เกิดการผูกขาดธุรกิจพลังงานรายใหญ่ อีกทั้งหน่วยงานกำกับดูแลก็ไม่มีความเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง จึงตอบสนองโยบายรัฐมากกว่าการรักษาผลประโยชน์ของประชาชน นอกจากนี้บริษัทพลังงานใหญ่เกินไปที่ใครจะแตะต้องได้ (รายได้ของบริษัทพลังงาน รวมทั้งในเครือเท่ากับร้อยละ 45.6 ของรายได้บริษัทจดทะเบียนทั้งหมด) ซึ่งทั้งหมดนี้พลังประชาชนเท่านั้นที่จะสามารถยับยั้งการครอบงำเศรษฐกิจของเครือข่ายยักษ์ใหญ่ทางพลังงานนี้ได้



โดย: ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์

9 มิถุนายน 2556, 14:36 น.

วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จับตาความไม่โปร่งใสใน ปตท.




ไม่มีคนไทยคนใดไม่รู้จักบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เพราะเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของประเทศ เป็นตัวแทนและเป็นหน้าเป็นตาของรัฐบาล ที่สำคัญเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดราคาพลังงานของประเทศ คนไทยจะใช้น้ำมันถูกหรือแพง ส่วนหนึ่งก็มาจากการตัดสินใจของปตท.

แต่วันนี้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับ ปตท.และบริษัทในเครือ ที่คนไทยไม่มีโอกาสได้รู้ได้เห็น นั่นคือเรื่องที่การเมืองเข้ามาแทรกแซงการบริหารจัดการ เข้ามาทำตัวเป็นเหลือบในองค์กร ไม่ต่างอะไรกับสนิมร้ายที่กัดกินเนื้อเหล็กให้รอวันผุพัง

ที่ผ่านมาพนักงานของ ปตท.และในเครือกว่า 10,000 คน ไม่เคยตื่นตัว ไม่เคยสนใจ เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน

แต่วันนี้พวกเขาเหล่านั้นเริ่มตื่นตัว ลุกขึ้นมาก่อตั้งชมรมต่อต้านการทุจริตคอรัปชันในองค์กรของตัวเอง เนื่องจากเห็นว่าถ้ายังปล่อยให้การเมืองเข้ามาแทรกแซง เข้ามาทำทุจริตโกงกินกันอีกต่อไปสักวัน ปตท.คงหนีไม่พ้นต้องล้มละลายเหมือนกับ “เอนรอน” บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ที่เคยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก มูลค่าทรัพย์สินเกือบ 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ต้องมาล้มละลายเพราะผู้บริหารองค์กรทุจริตขาดบรรษัทภิบาล

เป็นที่รู้กันใน ปตท.และบริษัทในเครือว่า หลายปีที่ผ่านมา กระบวนการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างอ่อนแอมาก เป็นผลพวงมาจากคนในองค์กรที่ยอมอ่อนข้อให้กับการเมือง และยอมทำตามคำบัญชาของนักการเมืองโดยไม่กล้าทักท้วง จนในที่สุดพนักงาน ปตท.และในเครือทนเห็นความไม่ชอบมา พากลไม่ได้ ต้องลุกขึ้นมาปกป้องสมบัติของชาติ

ไม่น่าเชื่อว่าพลังเงียบใน ปตท.และเครือข่าย จะสามารถแสดงพลังต่อต้านคอรัปชันได้ไม่น้อย จนทำให้ผู้บริหารองค์กรบางคนที่คิดทุจริตต้องหยุดพฤติกรรมเลวๆ

ดูได้จากโครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ควบคุมและป้องกันการกลั่น ของไทยออยล์มูลค่า 1,600 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแรกๆที่พนักงาน ปตท.และบริษัทในเครือออกมาปลุกกระแสการต่อต้านการทุจริต จนทำให้หลายฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบโครงการอย่างละเอียด ซึ่งล่าสุดประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจไทยออยล์ได้ยื่นหนังสือขอให้บอร์ดไทยออยล์ทบทวนการประมูลงานโครงการนี้อีกครั้ง

แต่การตื่นตัวของพนักงาน ปตท.และบริษัทในเครือ นอกจากจะทำให้สังคมเริ่มจับตาความโปร่งใสในองค์กรพลังงานของประเทศแล้ว ยังทำให้ผู้บริหารองค์กรบางคนมองว่า หากปล่อยให้พลังเงียบใน ปตท.และเครือข่ายเข้มแข็งมากขึ้นกว่านี้ ก็จะกลายเป็นหอกข้างแคร่เป็นอุปสรรคในการทำทุจริต

ทำให้เมื่อเร็วๆนี้มีการโยกย้ายฟ้าผ่าใน ปตท.และบริษัทในเครือ โดยเริ่มจาก นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ถูกย้ายไปเป็นประธาน เจ้าหน้าที่บริหารไทยออยล์ แทน นายสุรงค์ บูลกุล ที่ถูกย้ายไปเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน หรือซีเอฟโอ ปตท. และย้าย นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือซีอีโอ ปตท.สผ. เข้าไปนั่งแทน นายวีรศักดิ์ พร้อมโยกนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ซีเอฟโอ ปตท. มาเป็นซีอีโอ ปตท.สผ.

ไม่มีใครบอกได้ว่าเบื้องหลังลึกๆในการโยกย้ายครั้งนี้ จะมีเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบ ขจัดอุปสรรคและปัญหาขัดแย้งภายในองค์กร หรือมีเป้าหมายอื่นที่แอบแฝง

แต่สำหรับพนักงาน ปตท.และเครือข่ายต่อต้านการทุจริต รู้ดีว่านี่เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพื่อหยุดพลังเงียบใน ปตท. และเครือข่ายไม่ให้เข้มแข็งมากไปกว่านี้.


“ลมสลาตัน”

ไทยรัฐออนไลน์

    โดย ลมสลาตัน
    3 เมษายน 2555, 05:00 น.

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

'ปตท.' งุบงิบร่วมทุน 'Mercuria' แบกหนี้อื้อสูญเงิน 300 ล้านเหรียญ (9 พันล้านบาท)