ทวงคืน ปตท.

ทรัพย์สินของแผ่นดิน พลังงานของชาติ ...จะปล่อยให้คนไม่กี่ตระกูล ครอบครองและกอบโกยผลประโยขน์ - ทวงคืน ปตท.. เพื่อให้เป็นสมบัติของลูกหลานคนไทยทุกคน...◕‿◕..

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ความจริงที่คนไทยไม่เคยรู้ และยากที่จะรู้ แต่สามารถรู้ได้



ความจริงที่คนไทยไม่เคยรู้ และยากที่จะรู้ แต่สามารถรู้ได้

โดย ม.ล. กรกสิวัฒน์ เกษมศรี
________________________________________________________________________________
1. ประเทศไทยผลิตน้ำมันดิบ ติดอันดับ 33 ของโลก
ข้อมูลของรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกา EIA ได้จัดอันดับไทยให้อยู่่ลำดับที่ 24 ของโลกในการผลิตก๊าซธรรมชาติ และลำดับที่ 33 ของโลกในการผลิตน้ำมัน   จากประเทศที่ผลิตน้ำมันกว่า 200 ประเทศ โดยสูงกว่าประเทศบรูไนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเศรษฐีน้ำมัน
 
แต่ทำไมส่วนแบ่ง ผลประโยชน์จากทรัพยากรปิโตรเลียมของไทยจึงต่ำที่สุดในกลุ่มอาเซียน และต่ำกว่าประเทศที่สูบน้ำมันและก๊าซได้น้อยกว่าประเทศไทย เช่น พม่าหรือกัมพูชา ???
 สาเหตุเพราะ  ประเทศไทยไม่เคยเจาะสำรวจปริมาณสำรองของแหล่งพลังงาน ทำให้
 ไม่มีข้อมูล โดย ตรง จึงต้องเชื่อข้อมูลที่ได้รับสัมปทานโดยตรง ฝ่ายเดียว ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่ต้องสำรวจศักยภาพปิโตรเลียมก่อนแล้วจึงให้สัมปทาน
การที่มาอ้างว่าไม่มีงบประมาณ ทั้งๆที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 20 ปี มูลค่าก๊าซและน้ำมันดิบที่สูงกว่า 3.4 ล้าน ล้าน บาท ก็จะสูงกว่าค่าขุดเจาะมาก คือเสียเพียง 3.4 หมื่นล้านบาท  (ซึ่งคิดเป็นเพียง 1%ของรายได้ที่ควรได้ ) แต่กลับไม่ทำ ในขณะที่กัมพูชายังจ้างบริษัทที่ปรึกษาถึง2บริษัทเพื่อมาประเมินศักยภาพ ปิโตรเลียมในประเทศตน (แต่ไทยไม่ทำ)
 
 
2. น้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติบนขวานทองของไทย
ปิโตรเลียม (ก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบ) ของประเทศไทย มีทั้งบนบกและในทะเล (ข้อมูลที่ยืนยันคือประเทศไทย พบซากฟอสซิลไดโนเสาร์ จำนวนมาก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่) ข้อมูลจากองค์กรกลุ่มโอเปกในรายงานประจำปี (Annual Statistical Bulletin 2010/2011) ระบุว่าไทยมีก๊าซธรรมชาติ มากกว่า กลุ่มประเทศโอเปก 8 ประเทศ
ทุกวันนี้ประเทศไทยมีบ่อผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ 2768 แห่ง
 แหล่งปิโตรเลียม
 ล้านลิตรต่อปี
 แหล่งน้ำมันสิริกิติ์ (กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์)
 2,000  ล้านลิตรต่อปี
 แหล่งเพชรบูรณ์
 94  ล้านลิตรต่อปี
 แหล่งสุพรรณบุรี
 90  ล้านลิตรต่อปี
 แหล่งเชียงใหม่
 60  ล้านลิตรต่อปี
 แหล่งในทะเล เช่น แหล่งบงกช
 10,000   ล้านลิตรต่อปี
 
 
3. ประเทศไทยผลิตก๊าซธรรมชาติ ติดอันดับ 24 ของโลก
 ปัจจุบัน ราชการอ้างว่า ปิโตรเลียมบ่อเล็กกำลังจะหมด แต่จากรายงานประจำปีของกระทรวงพลังงาน พบว่า ปริมาณน้ำมันปิโตรเลียมที่ขุดได้กลับเพิ่มขึ้นตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่าน มา ข้อมูลการขุดน้ำมันในเดือนพฤษภาคม 2555 คือ 1ล้านบาร์เรล หรือ 160 ล้านลิตรต่อวัน
Census Bureau (หน่วยงาน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ) จัดประเทศไทย ให้อยู่ในกลุ่ม World Major Producer ของก๊าซธรรมชาติ ติดอันดับการผลิตน้ำมัน Top 15% ของโลก แต่ผลประโยชน์ที่กลับคืนสู่ประเทศไทยกลับต่ำกว่า ประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตที่ต่ำกว่า
ที่ประเทศสหรัฐ จะมีการทำข้อมูลทรัพยากรปิโตรเลียมอย่างโปร่งใส มีหน่วยงานกลางคอยเก็บข้อมูลเพื่อป้องกันการสร้างผลประโชน์ทับซ้อยของคน บางกลุ่ม นอกจากนั้นสหรัฐ ยังมีระบบที่สามารถตรวจสอบและถ่วงดุลกันได้
ในขณะที่ประเทศไทยกลับเอาผู้มีผลประโยชน์ทางด้าน พลังงาน ไปนั้งกำกับดูแลธุรกิจพลังงาน และคนดูแลเก็ยข้อมูลพลังงานกลับมีผลประโยชน์ร่วมกับผู้รับสัมปทาน  ทำให้งบการเงินของบริษัทขุดเจาะและผู้ค้าน้ำมัน มีกำไรมหาศาลจากปิโตรเลียมของไทย เป็นหลายแสนล้าน
 
4. สหรัฐนำเข้า น้ำมันดิบจากไทย แต่ขายถูกกว่าไทยลิตรละ 10 บาท
คนไทยใช้น้ำมันเบนซิน ดีเซลเพียง 73-75 ล้านลิตร ซึ่งเป็นอัตราคงที่มากว่า 8 ปีแล้ว ไทยส่งออกน้ำมันดิบชั้นดี มีมลภาวะต่ำ ไปขายสหรัฐ  มีข้อมูลในเวบของ Census Bureau (http://www.census.gov) ซึ่งเป็นหน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ ระบุชัดเจนว่า สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบจากไทยมานานแล้ว
 
ปี 2551 ไทยส่งออกปิโตรเลียม (น้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติเหลว) รวมเกือบ 300,000 ล้านบาทหรือประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นมูลค่าที่มากกว่าข้าวและยางพารา
 
ต้นเดือน มกราคมปี 2555 ไทยส่งออกน้ำมันดิบไปสหรัฐมาถึง 1.2 ล้านบาร์เรล แต่ราคาน้ำมันเบนซินหน้าปั้มของสหรัฐ กลับมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินที่ขายในไทยถึงลิตรละ 10-14 บาท ทั้งๆที่สหรัฐเป็นประเทศการค้าเสรี ที่บริษัทพลังงานไม่อุดหนุนราคาน้ำมัน ดังนั้นแม้สหรัฐจะขายในราคานี้ สหรัฐก็ยังมีกำไรแน่นอน
Assessment of Undiscovered Oil and Gas Resources of
Southeast Asia, 2010
http://pubs.usgs.gov/fs/2010/3015/pdf/FS10-3015.pdf
 



5. ประเทศไทยให้สัมปทานขุดน้ำมันถูกที่สุดแต่ราคาน้ำมัน กลับแพงที่สุดในอาเซียน
นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังส่งน้ำมันดิบไปขายให้แก่ประเทศเกาหลีใต้และสิงคโปร์อีกด้วย  ปรากฏว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้สัมปทานน้ำมันถูกที่สุด แต่ราคาน้ำมันที่คนไทยซื้อกลับแพงที่สุด
 ประเทศ
 ราคาน้ำมันเบนซิน 95
 ไทย
 44.86  บาท (แพงที่สุด)
มาเลเซีย 
 19 บาท
 อินโดนีเซีย
 31.10 บาท
 พม่า
 24 บาท
 
แต่ผลประโยชน์จากปิโตรเลียมที่ไทยเก็บได้ เป็นเพียงร้อยละ 30 ของมูลค่าที่แท้จริง   ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับความเป็นแหล่งปิโตรเลียม ที่ติดอันดับโลกของไทย ดังตาราง
 
 
 
 ประเทศ
ลำดับในการเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติของโลก 
 ส่วนแบ่งที่เจ้าของประเทศได้
ผลประโยชน์จากแหล่งน้ำมันของตนเอง
 ไทย
 ลำดับที่  24  ของโลก
 ร้อยละ 30
 โบลิเวีย
 ลำดับที่ 33 ของโลก
 ร้อยละ 82
 พม่า
 ลำดับที่ 36 ของโลก
 ร้อยละ 80-90
 คาซัคสถาน
 ลำดับที่ 42 ของโลก
 ร้อยละ 80
 
 
6. ผลประโยชน์จากแผ่นดินต้องกลับคืนสู่มือประชาชน มิใช่นายทุน
ในประเทศที่เขามีทรัพยากรมากมายแบบประเทศไทยขนาดนี้ เขาจะเอาเงินมาพัฒนาประเทศ ทำให้ประชากรของเขาอยู่ดี กินดี  เรียนฟรี มีการรักษพยาบาลฟรี
แต่เป็นที่น่าเศร้าสำหรับประเทศไทย ที่คนไทยกลับมีชีวิตที่ยากเข็ญ ประชากรส่วนใหญ่มีหนี้สิน อดมื้อกินมื้อ ทำงานหนัก หาเช้ากินค่ำ
 
7. ประเทศไทยให้สัมปทานขุดน้ำมันถูกที่สุดแต่ราคาน้ำมันกลับแพงที่สุดในอาเซียน
 จะเห็นได้ว่า ระบบสัมปทานน้ำมันดิบและก๊าซปิโตรเลียม ทำให้บริษัทเจ้าของสัมปทานรวย ในขณะที่ประชาชนเจ้าของประเทศ เจ้าของทรัพยากร กลับต้องปากกัดตีนถีบ
กระทรวงพลังงาน เคยชี้แจงต่อคณะกรรมการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต วุฒิสภา โดยกระทรวงพลังงานขอให้เห็นใจบริษัทผู้รับสัมปทานว่า การขุดเจาะและสำรวจพลังงานเป็นเรื่องยากและได้กำไรน้อย ทั้งๆที่ในปัจจุบันความจริงปรากฏว่า บริษัทผู้รับสัมปทาน ได้กำไร หลายแสนล้านบาท
 
คงต้องเป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งแผ่นดินแล้วว่า ควรออกมาทวงสิทธิของตนเอง

14 ความคิดเห็น:

  1. คนไทยความโง่พื้นฐานมีเป็นที่หนึ่ง อวดรู้อวดฉลาดเป็นที่หนึ่ง รู้ว่าเขาโกงแต่ยอมได่เป็นที่หนึ่ง เขาโกหกฟังชี้แจงแล้วเชื่อได้อีกเป็นที่หนึ่ง ของแพงเขาอธิบายว่าจำเป็นต้องแพงก็เชื่อเขาเป็นที่หนึ่ง คนมีลูกแล้วบอกว่าฉันเป็นนางสาวก็นับถือว่าเป็นจริงเป็นที่หนึ่งโว้ยยยย

    ตอบลบ
  2. ในฐานะของคนไทยต้องทำอย่างไรดีนะ อ่านแล้วก็รู้สึกสลดถ้าข้อมูลนี้เป็นความจริง

    ตอบลบ
  3. แล้วกระทรวงพลังงานจะว่าอย่างไร

    ตอบลบ
  4. เชื่อเถอะ เพราะประเทศไทยโกงกินเป้นที่หนึ่ง ( เอากะเขาด้วย )

    ตอบลบ
  5. โชตช่วงชัชวาลมาตั้งแต่ปี 2522 แล้วครับ

    ตอบลบ
  6. ประเทศไทยดีทุกอย่าง..แต่ที่ไม่ดีก็คือมีคนแบบไอพวกนี้อยู่ไงคับ...มันโกงกินกันทุกอย่าง

    ตอบลบ
  7. ประเทศไทยมันมีเงินมาบังตาบังใจไม่ว่ารัฐบาลใหนไม่เคยออกมาพูดเพราะอะไรก็เพราะ ปตท ให้เงิน สนับสนุนพรรค ทุกพรรคตามสัดส่วนและเป็นเงินทุนสำคัญ ของนักการเมือง รวมทั้งให้สื่อต่างๆ ถึงบริจาคให้ส่วนต่างๆ ไปหลายพันล้านบาท ก็ยังได้ผลกำไรอีกเป็นหมื่นล้าน ประชาชนก็โง่ไม่รู้เรื่อง ยังคิดว่าประเทศไทยไม่มีนำ้มัน ทั้งที่จริงไทยติดอับดับของโลก โทษของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ต่อไปคงแปรรูป วัด โรงบาล ฯลฯ พวกคุณอย่าได้หวัง ว่าสื่อ นักการเมืองจะออกมาช่วยเรา พวกเราต้องเปลี่ยนจาหสถานะ ไทยเฉย เป็น ไทย แฉ แฉให้ได้มากที่สุดและอย่าลืมให้ความคิดเห็นของท่าน และแชร์ ไทยแฉจงเจริญ

    ตอบลบ
  8. ทำอย่างไงให้เขาได้ยินถ้าไม่ช่วยกันดัน ประโยชน์ที่เสียไปนั้นเป็นของตัวเราเอง

    ตอบลบ
  9. เห็นด้วยกับ คุณสมชัย สุดจินดา เรื่องจริงที่เคยทราบมา เงินสนับสนุนจาก ปตท. ที่ให้หน่วยงานของรัฐหลาย ๆ หน่วย เงินส่วนนี้จะไม่ผ่านฝ่ายบัญชีหรือการเงินของหน่วย ทำให้ตรวจสอบได้ยาก แล้วก็สนับสนุนทุก ๆ ปี ไม่เคยขาด เชื่อได้ว่าแม้แต่สื่อเองก็น่าจะได้รับเงินสนันสนุนในส่วนนี้ เลยไม่มีหน่วยงานไหนหรือสื่อสำนักไหนยอมแฉเรื่องนี้เพราะกลัวจะโดนตัดเงินในส่วนนี้ แบบนี้ก็เหมือนปิดหูปิดตาประชาชนเต็มๆ

    ตอบลบ
  10. สู้โว้ย เราคนไทยไม่ยอมโง่

    ตอบลบ
  11. เรื่องน้ำมันที่งุบงิบกัันนี่น่าจะเป็นชนวนจุุดระเบิดการพังทะลายของระบอบอำมาตยาในไทยเลยทีเดียว หากเป็นการโกงจริง โกงนาน โกงจำนวนมหาศาล จนคนโกงติดอันดับเศรษฐีโลกกันเลยน่ะ

    ตอบลบ
  12. ผมเห็นด้วย เรื่อง สัมปทานที่แบ่งผลประโยชน์ให้รัฐน้อยกว่าเพื่อนบ้าน และ เรื่องน้ำมันราคาแพง แต่ทั้งสองอย่างอยุ่ภายใต้นโยบายของรัฐที่จัดเก็บสัมปทานและกำหนดโครงสร้างราคาน้ำมันขายปลีก

    ตอบลบ
  13. http://www.eia.gov/dnav/pet/pet_move_impcus_a2_nus_epc0_im0_mbbl_a.htm

    ข้อมูล EIA.gov สหรัฐนำเข้าน้ำมันดิบทั้งปี 6.237 ล้านบาเรล เฉลี่ย 0.527 ล้านบาเรลต่อเดือน หรือ 17,575 บาเรลต่อวัน

    ตอบลบ